วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ท่องเที่ยวระยอง ไปกับ พระเจดีย์กลางน้ำ

ท่องเที่ยวระยอง ไปกับ พระเจดีย์กลางน้ำ

 
พระเจดีย์กลางน้ำ ระยอง นับเป็นเสมือนสัญลักษณ์ประจำเมืองระยองแห่งนี้  ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำระยอง โอบล้อมไปด้วยป่าชายเลน อยู่ภายในบริเวณก่อน ถึงปากแม่น้ำระยอง โดยปัจจุบันได้มีการบูรณะดูแล  และอยู่ในความดูแลของวัดปากน้ำ เพื่อที่จะให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว  และนอกจากนี้นักท่องเที่ยว ทั้งยังสามารถเดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนที่อยู่ในบริเวณเดียวกันได้อีกด้วย
พระเจดีย์กลางน้ำ ระยอง  มีสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยร.ที่ 4 เมื่อปีพ.ศ. 2416 ช่วงพระยาศรสมุทร  โภคชัยชิตสงคราม(เกตุ ยมจินดา) ได้เป็นเจ้าเมืองระยองอยู่ในขณะนั้นเคยเข้ากรุงเทพ และผ่านไปยังจังหวัดสมุทรปราการเห็นองค์พระสมุทรเจดีย์หรือเจดีย์กลางน้ำ ระยอง ตั้งอยู่บนบริเวณเกาะกลางน้ำ  จึงจำลองแบบมาสร้างให้เป็นสัญลักษณ์สำหรับชาวเรือที่มาถึงระยอง โดยการสร้างเป็นเจดีย์ไว้บนเกาะกลางน้ำ โอบล้อมไปด้วยพื้นที่ป่าชายเลนประมาณ 52 ไร่ พระเจดีย์แห่งนี้เป็นแบบก่ออิฐถือปูนสีขาวทรงระฆังฐานกลม ส่วนยอดนั้นมีบัลลังก์สี่เหลี่ยมและเสาหานรองรับปล้องไฉนปลียอดอยู่ส่วนบนเป็นเม็ดน้ำค้าง มีความสูงประมาณ 10 เมตร มีระเบียงล้อมรอบองค์ระฆัง 2 ชั้นไว้ มีบันไดขึ้น 2 ข้างลานด้านล่างโดยรอบปู ด้วยกระเบื้องดินเผาสีอิฐ ด้านหนึ่งของพระเจดีย์กลางน้ำ ติดกับลำน้ำระยอง ส่วนอีกด้านหนุ่งเป็นส่วนที่ติดกับป่าชายเลนหนาทึบ ปัจจุบันได้มีสะพานตัดข้ามจากฝั่งไปปยังเกาะได้สะดวกมากขึ้น
พระเจดีย์กลางน้ำ ระยอง ทางกรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนให้เป็นโบราณสถานเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2544 ในพื้นที่กว่า 13 ไร่  พระเจดีย์กลางน้ำ ระยอง แห่งนี้เป็นที่ เคารพสักการะของชาวระยอง เป็นอย่างมาก  และในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสองของทุกปี จะมีงานประเพณี "งานห่มผ้าเจดีย์กลางน้ำ" โดยมีขบวนแห่มาทางแม่น้ำในพิธีมีการใช้ผ้าสีแดง ที่มีความยาว 6 เมตร ห่มองค์เจดีย์ตรงเรือนทาสทรงระฆังคว่ำไว้เพื่อเป็นการสักการะบูชาองค์พระเจดีย์ นอกจากนี้ยังมีการจัดแข่งเรือยาว และลอยกระทงประจำปีขึ้น ซึ่งจัดสืบทอดกันมานานมากกว่า 60 ปี
นอกจากนี้บริเวณพระเจดีย์กลางน้ำ ระยอง  ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อยู่ในส่วนของ "ศูนย์การเรียนรู้ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ ระยอง "  อยู่ภายใต้โครงการรักษ์ป่าชายเลน ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณโดยโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี  เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่บริเวณป่าชายเลน โดยมีสะพานปูนกั้นรั้วทั้งสองข้างทางเดินยาวประมาณ 200 เมตร  ทอดยาวไปตามแนวป่าชายเลนเพื่อให้ได้ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศของป่าชายเลย จังหวัดระยอง

ติดตามสถานที่ใหม่ๆ หรือที่ท่านอยากไปที่ http://travel.sanook.com

วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ท่องเที่ยวจับจ่ายใช้สอย ตลาดสดบ้านเพ ระยอง

ท่องเที่ยวจับจ่ายใช้สอย ตลาดสดบ้านเพ ระยอง

ตลาดสดบ้านเพ จังหวัดระยอง แห่งนี้มีชื่อเต็มๆว่า ตลาดเทศบาลบ้านเพ นับว่าเป็นตลาดที่เป็นที่รู้จักดีทั้งคนภายในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวทั้งชายไทยและชาวต่างชาติ เพราะเป็นแหล่งขายของที่มีความหลากหลายมีให้เลือกสรรค์หลายชนิดภายในตลาดสดบ้านเพแห่งนี้ ส่วนมากจะเน้นไปทางด้านของกิน โดยเฉพาะพวกของทะเลสดๆ ของแห้งนานาชนิด และขนมของฝากมากมายนานาชนิด ที่นักท่องเที่ยวต่างต้องอยากแวะมาซื้อจากตลาดบ้านเพ ติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วยอย่างแน่นอน
ตลาดบ้านเพ อยู่ในตำบลเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง อยู่ห่างจากท่าเรือเพ(ท่าเรือไปเกาะเสม็ด) ประมาณ 200 เมตร ของทะเลที่นี่จึงใหม่สดอยู่เสมอและสะดวกสำหรับนักท่องเที่่ยวที่ต้องการจะซื้อหาของทะเลสดๆ เพื่อเอาไปปิ้งย่างกินกันเองที่ริมหาดขณะเที่ยวพักผ่อน หรือซื้อไปทำกินบนเกาะก็ได้ ในตลาดมีกล่องโฟมจำหน่ายไว้สำหรับแช่ของสดด้วยจึงง่ายและสะดวกมากต่อการเก็บรักษาไว้เป้นเวลานาน ของทะเลที่ตลาดเพมีให้เลือกหลายชนิด อย่างเช่น กุ้ง ปูม้า ปลาหมึก ทั้งหมึกกล้วย หมึกหอม หมึกไข่ หอยอีกหลากหลายชนิด เช่น หอยหวาน หอยจาวมะพร้าว หอยนางรมหรือคนที่ไม่ต้องการเสียเวลาในการไปทำเอง ก็สามารถที่จะหาซื้อแบบทำสำเร็จพร้อมรับประทานได้เลยก็มี เช่น พวกหอย ปลาหมึกสดย่างเสียบไม้ราคาไม่แพง บรรดาหอย และปลาหมึกเสียบไม้ขายมีอีกหลายแบบ เช่น ปลาหมึกไข่ย่าง หมึกหอม หมึกกล้วย หมึกกระตอยไข่ หอยหวาน หอยเชลล์เสียบไม้ย่าง ปลาย่าง ก็สามารถหาซื้อไปนั่งกินริมชายหาดได้ทันทีเลย
ผู้ที่ต้องการจะซื้อผลิตภัณฑ์ทะเลแห้ง พวกปลาหมึกแห้ง ปลาแห้ง ผลิตภัณฑ์ทะเลแปรรูป ผลไม้แปรรูปอทุเรียนทอดกรอบ กล้วยฉาบ ขนมขบเคี้ยว ทอฟฟี่รสกะทิ รสถั่ว รสทุเรียน ก็มีขายในตลาดบ้านเพแห่งนี้มากมาย ส่วนของฝากที่ไม่ใช่ของกิน เช่น พวกเสื้อ ของประดับบ้าน อย่างม่านหอย ขนมขบเคี้ยว โมบาย ก็มีให้เลือกมากมายแทบทุกประเภทอีกด้วย
ตลาดสดบ้านเพเปิด อังคาร-อาทิตย์ 9.00-16.00 น.แนะนำว่าไม่ควรไปเกิน 5 โมงเย็นนะครับ

ติดตามข่าวสารสถานที่ต่างๆมากมายที่ http://travel.sanook.com

วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เที่ยวชมป่าชายเลน ทุ่งโปรงทอง ประแสร์ จังหวัด ระยอง

เที่ยวชมป่าชายเลน ทุ่งโปรงทอง ประแสร์ จังหวัด ระยอง

 
ทุ่งโปรงทอง ประแสร์ จ.ระยอง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ตั้งอยู่ภายในเขตชุมชนบ้านแสมภู่ ปากน้ำประแส อำเภอแกลง จ.ระยอง มีพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ ซึ่งแต่เดิมเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านที่ทำการประมง เลี้ยงกุ้ง ทำการเกษตร ทำสวนผลไม้ จนกระทั่งทรัพยากรธรรมชาติในบริเวณนี้ได้ถูกทำลายลง และสิ่งแวดล้อมป่าชายเลนเสื่อมโทรมลงอย่างมาก เทศบาลตำบลปากน้ำประแสที่ดูแลใส่ใจและให้ความสำคัญของระบบนิเวศของป่าชายเลน เพื่อรักษาสมดุลของสิ่งแวดล้อมและร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่เพื่อที่จะพัฒนาป่าชายเลนผืนที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดระยอง ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และศึกษาเรียนรู้ควบคู่กันไปโดยการสร้างสะพานเดินศึกษาธรรมชาติเป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ทุ่งโปรงทอง ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจในด้านระบบนิเวศน์ของป่าชายเลน ได้เห็นถึงความสวยงามตามธรรมชาติของป่าโกงกาง ไม้โปรง และไม้ริมชายฝั่ง จุดเด่นของบริเวณนี้นั้นคือต้นโปรงที่ขึ้นหนาแน่นอยู่เต็มพื้นที่ สะท้อนกับสีเขียวอ่อนตา จนเรียกได้ว่า เป็นทุ่งโปรงทอง
บริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาติแห่งนี้ ถือว่าเป็นพื้นที่หนึ่งที่เต็มไปด้วยความสมบูรณ์ของป่าชายเลน เริ่มด้วยจากสะพานไม้ที่ชุมชนแสมผู้สู่ทางเดินไม้ระแนงทอดยาวผ่านป่าชายเลน ริมสองข้างทางนั้นเต็มไปด้วยพืชพันธุ์หลากหลายชนิด ทั้งต้นแสม ตะบูนดำ โกงกาง โปรงแดง ลำพูน โปรงทอง ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัย แหล่งหลบภัย และยังเป็นแหล่งอนุบาลของสัตว์น้ำที่ชอบอาศัยอยู่ภายในบริเวณป่าชายเลน เช่น กุ้ง หอย ปูแสม ปูก้ามดาบ ปลาตีน สะพานไม้ได้ยาวลัดเลาะไปตามป่าโกงกางประมาณ 200 เมตร ก็สามารถทะลุออกมาจนเจอทุ่งโปรงทองที่เต็มไปด้วยต้นโปรงขึ้นเบียดกันแน่น ใบโปรงสีเขียวเหลืองอ่อนที่แทรกตัวออกเป็นพุ่มแน่นจนแทบจะไม่เห็นพื้นด้านล่างเลย เมื่อใบถูกแสงแดดจะสะท้อนให้เห็นเป็นสีทองอร่ามๆ เต็มสะพรั่งทั่วๆท้องทุ่ง ตรงจุดชมวิวกลางทุ่งต้นโปรงนี้สามารถเห็นวิวได้รอบทิศทาง เสมือนถูกโอบด้วยทุ่งสีเหลืองทองตัดด้วยขอบสีเขียวเข้มของใบโกงกางที่เป็นพุ่มล้อมโดยรอบอยู่ ถือเป็นจุดชมวิวที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับหลายๆคนที่ได้มาสัมผัสกับความงดงามแห่งธรรมชาติป่าโปรงทองที่นี่นั่นเอง
เมื่อเดินต่อไประหว่างทางก็จะได้พบพันธุ์ไม้นานาชนิด ที่ติดป้ายบอกไว้ให้ได้ศึกษาเรียนรู้ อาทิเช่น ต้นลำพู ต้นแสม ต้นตะบูนดำ โปรงแดง ต้นโกงกาง โปรงทอง ฯลฯ จากนั้นจะไปถึงยังศาลเจ้าแสม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านนั้นนับถือกันมาแต่โบราณ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามากราบสักการะได้ เมื่อเดินไปยังสุดทางที่ศาลาพักชมวิว มองออกไปเห็นท้องทะเลว่างเปล่าสุดแสนยาวไกลสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว ถือว่าธรรมชาติช่วยผ่อนคลายได้ดียิ่งนัก
รายละเอียดเพิ่มเติม

เวลาเปิดให้เข้าชมอยู่ที่ 6.00 - 18.00 น. โดยไม่เสียค่าเข้าชมใดๆ ทุ่งโปรงทองมีสะพานทอดยาวประมาณ 1 กิโลเมตรไปสิ้นสุดที่ทะเลประแสร์ จุดเริ่มต้นจากทางเข้าวัดตะเคียนงามถ้าหากเดินไปจนสุดเส้นทางศึกษาทางตรงเรือทะและประแสซึ่งเป็นที่ตั้งของเรือรบหลวงประแสร์ ซึ่งหากเดินด้วยเท้าใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ แต่ถ้าอยากชมธรรมชาติให้ครบทั้ง 2 ฝั่งอาจจะต้องเดินมาจากทาง เข้าเรือรบ หลวงประแส ไปอีกครึ่งทาง จากนั้นก็นั่งรถต่อไปยังวัดตะเคียนงามก็ยังได้ ช่วงเวลาที่เหมาะสมก็คือ ช่วงเช้าและช่วงบ่ายแก่ๆ เนื่องจากบรรยากาศไม่ร้อนมากและเป็นช่วงเวลาที่แสงแดดมาส่องกระทบใบโปรงทองจนเห็นเป็นเป็นสีเหลืองอร่าม และหากนักท่องเที่ยวต้องการนั่งเรือชมริมแม่น้ำประแสร์ป่าชายเลนยามค่ำคืน ก็มีเรือให้บริการเป็นหมู่คณะอีกด้วย เพื่อชมความงามของหิ่งห้อยที่ต้นลำพูนี่เอง
ติดต่อ-สอบถาม:

ททท. สำนักงานจังหวัดระยอง โทร. 038-655-420-1, 038-664-585

สำนักงานเทศบาลตำบลปากน้ำประแสร์ โทร. 038-661-720-1

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวได้อีกเพียบที่ http://travel.sanook.com
วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ท่องเที่ยวชมสัตว์น้ำชิลๆในวันหยุด สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง

ท่องเที่ยวชมสัตว์น้ำชิลๆในวันหยุด สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง

 
สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยองแห่งนี้เป็นสถานที่เที่ยวที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยและสำหรับครอบครัวที่มาเที่ยวชมสัตว์น้ำกันในวันหยุด เป็นสถานที่ที่รวบรวม จัดแสดงพันธุ์ปลาสวยงามและสัตว์ทะเลมากมาย สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยองแห่งนี้อยู่ที่บริเวณศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ริมอ่าวบ้านเพ ตำบลเพ จังหวัดระยอง
ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ได้จัดตั้งโดยกรมประมงเพื่อศึกษา ทดลอง และวิจัยเกี่ยวกับพันธุ์สัตว์ทะเลและพรรณไม้น้ำต่างๆ ส่วนสถานแสดงพันธุ์สัตว์ทะเลนั้นเป็นสถานที่รวบรวมและจัดแสดงสัตว์ทะเลที่ยังมีชีวิตให้นักท่องเที่ยวได้มาชมสวยงาม และหายาก เพื่อเป็นการให้ความรู้ความเข้าใจในการดำรงชีวิตอยู่และพฤติกรรมของสัตว์ทะเลทั้งหลาย โดยการจัดแสดงสัตว์น้ำนั้นจะแบ่งออกส่วนต่างๆคือ 1.บ่อจัดแสดงระบบนิเวศน์น้ำตื้นเช่น พวกปลาดาวและปลิงทะเลชนิดต่างๆ 2.บ่อจัดแสดงพันธ์ุปลาที่อยู่บนผิวน้ำ 3.บ่อกลางแจ้งสำหรับจัดแสดงระบบนิเวศน์ใต้ท้องทะเล ไว้สำหรับปลาขนาดใหญ่ และ 4.บ่อเต่าทะเล
ภายในอาคารนิทรรศการยังมีตู้ปลาทะเลจำนวนทั้งหมด 43 ตู้ ที่จัดแสดงสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ตามแนวปะการัง สัตว์น้ำเศรษฐกิจและสัตว์น้ำที่ทางกรมประมงเพาะพันธุ์ขึ้น รวมถึงสัตว์ทะเลที่ก่อให้เกิดอันตรายทั้งการรับประทานและจากการสัมผัส เพื่อให้ได้ระมัดระวังถึงพิษภัยของสัตว์น้ำบางชนิด
จุดที่ดึงดูดและเป็นที่น่าตื่นเต้นสำหรับผู้เข้ามาชมเห็นจะเป็นการเดินทางลอดอุโมงค์กระจกที่สามารถสัมผัสชีวิตสัตว์ใต้ทะเลได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น และนอกจากภายในสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำยังมีพิพิธภัณฑ์เปลือกหอยและนิทรรศการที่แสดงเรื่องราวของอาชีพประมง จัดแสดงเครื่องมือประมงพื้นบ้านและแบบจำลองสัตว์ทะเลที่ใกล้จะสูญพันธุ์ขึ้น

วันและเวลาที่เปิดทำการ : วันพุธ-ศุกร์ เวลา 10.00-16.00 / วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ​​์ เวลา 10.00-17.00 น.

ปิดทำการ : ทุกวันจันทร์ และอังคาร

อัตราค่าเข้าชม : ชาวไทยและชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 30 บาท และ เด็ก 10 บาท (ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และเด็กสูงไม่เกิน 120 ซม. ไม่เสียค่าเข้าชม) ถือว่าถูกมากๆ

ที่เที่ยวอื่นยังรอคุณอยู่ลองมาหาดูที่ http://travel.sanook.com/

วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

หาดแสงจันทร์ หาดสวยมีเอกลักษณ์ จังหวัดระยอง

 หาดแสงจันทร์ หาดสวยมีเอกลักษณ์ จังหวัดระยอง

หาดแสงจันทร์ ระยอง นั้นเป็นสถานที่่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับตัวเมืองระยอง ห่างจากถนนสุขุมวิทเพียงแค่ประมาณ 5 นาที หาดแสงจันทร์อาจจะดูแปลกไปกว่าหาดอื่นๆนิดหน่อยตรงที่มีกองหินสร้างเป็นเขื่อนก่อยื่นออกไปในทะเลทำให้เกิดเป็นแอ่งน้ำเว้าเข้ามาที่ชายฝั่งเป็นเหมือนอ่าวเล็กๆรูปครึ่งวงกลมขนาดเล็กเรียงต่อๆกันตามยาวตลอดแนวชายหาด เป็นหาดที่เหมาะแก่การพักผ่อนมาก น้ำทะเลก็ใสสะอาด เม็ดทรายละเอียดภายในอ่าวเล็กๆ น้ำไม่ลึกมาก แต่ก็ควรระวังไม่ควรว่ายน้ำออกไปในบริเวณปากอ่าวระหว่างโขดหินหรือบริเวณนอกโขดหินที่เป็นตัวกั้นคลื่นลม เพราะจะเป็นช่วงที่กระแสน้ำอาจจะแปรปรวนได้
ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ชอบขับรถออกมาตามถนนเลียบชายฝั่งเพื่อพักผ่อนและมองหาอาหารทะเลสดๆ รสอร่อยและหาที่พักริมทะเลที่ไม่ค่อยพลุกพล่นเหมือนกับหาดอื่นๆ
ส่วนอีกด้านหนึ่งของหาดแสงจันทร์นั้น(ด้านซ้ายสุด) จะเป็นแหลมเจริญ เป็นจุดจอดเรือประมงแหล่งลงปลา โรงน้ำปลา โรงงานทำกะปิ และมีร้านอาหารทะเลสดๆให้เลือกตลอดแนวชายฝั่งทั้งแบบบ้านๆปูเสื่อใบนั่งพื้นหรือจะเป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่อีกฝั่งของถนนโดยเฉพาะบริเวณทางไปยังสุดแหลมก็จะมีร้านที่มีชื่อเสียงของระยองอยู่คือ ร้านแหลมเจริญซีฟู้ดที่อยู่ก่อนถึงบริเวณศาลเจ้า ส่วนปลายสุดของแหลมจะเป็นจุดที่แม่น้ำระยองมาบรรจบกับทะเลจึงเป็นเหมือนปากประตูเข้าไปสู่ลำน้ำระยอง จะเห็นเรือประมงจอดหลบคลื่นลมกันอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ทางกรมเจ้าท่าได้จัดวางแนวหินที่ยื่นยาวออกไปในทะเลเพื่อที่จะเป็นเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลหรือลดแรงคลื่นลง เหมาะแก่จะการเล่นทะเลมากขึ้นทั้งด้านความปลอดภัยและความน่าโดดน้ำก็เพิ่มขึ้นด้วย
ส่วนการเดินทางไปยังหาดแสงจันทร์ ก่อนถึงตัวเมืองระยองประมาณ 6 กิโลเมตร

1.ถ้ามาจากเส้นสุขุมวิท
- จากกรุงเทพวิ่งเส้นสุขุมวิท ก่อนถึงตัวเมืองระยองให้เลี้ยวขวาตามป้ายไปหาดแสงจันทร์ สุดทางเป็นสามแยกรูปปั้นนางผีเสื้อสมุทรและพระอภัยเป่าปี่ให้เลี้ยวขวาไปหาดแสงจันทร์ได้เลย

2.จากทางหลวงเส้น 36
- จากเส้น 36 วิ่งเลยแยกเข้านิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและแยกถัดไปให้เลี้ยวขวาตัดเข้าเส้นสุขุมวิท
- เมื่อถึงเส้นสุขุมวิทให้เลี้ยวซ้ายไปทางระยอง-จันทบุรี ให้เลี้ยวขวาตามป้ายไปหาดแสงจันทร์เมื่อถึงถนนเลียบชายฝั่งให้เลี้ยวขวา
คำแนะนำ
ในวันที่คลื่นลมแรง ในฤดูมรสุม หรือช่วงมีฝนตกหนัก ไม่ควรลงเล่นน้ำถึงแม้ว่าน้ำจะดูตื้นแต่ก็อาจมีคลื่นลมแรงและทำให้เกิดอันตรายก็เป้นได้

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
บริเวณใกล้เคียงกับหาดแสงจันทร์มี พระเจดีย์กลางน้ำจังหวัดระยอง และหอชมวิวเฉลิมพระเกียรติอยู่ด้วย

เที่ยวหาดไหนอีกดี คิดไม่ออกเข้ามาดูได้ที่ http://travel.sanook.com/

วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ประวัติศาสตร์ แห่ง ตลาดเก่าเมืองระยอง ถนนยมจินดา จังหวัดระยอง

ประวัติศาสตร์ แห่ง ตลาดเก่าเมืองระยอง ถนนยมจินดา จังหวัดระยอง

สถานที่ต่างๆมากมายในไทยนั้นยังมีอีกหลายสิ่งที่เราเชื่อว่าท่านต้องไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งๆนั้นหรือสถานที่นั้น บทความนี้เราจึงจะขอเสนอสถานที่แห่งนั้นขึ้นมาแห่งหนึ่งนั่นก็คือ ตลาดเก่าเมืองระยองกับถนนยมจินดา ภนนสายวัฒนธรรมที่มีความสำคัญเคืองคู่ไปกับตัวเมืองระยองตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ประวัติศาสตร์จะมีอะไรแบบไหนนั้น เราจะพาท่านไปสัมผัสกัน

ประวัติความเป็นมา
เมื่อย้อนเวลากลับไปนานกว่าชั่วชีวิตคนสัก ชุมชนเมืองระยองแห่งนี้ถูกจัดให้เป็นหัวเมืองชั้นตรีสภาพท้องถิ่น ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรป่าไม้ มีแม่น้ำระยองไหลผ่านใจกลางเมือง มีความเจริญรุ่งเรืองมาจากธุรกิจอู่ต่อเรือ ชาวบ้านใช้แม่น้ำระยองเป็นเส้นทางหลักในการคมนาคมและขนถ่ายสินค้าโดยผ่านเรือสำเภาไปยังหัวเมืองต่างๆรวมทั้งลำเลียงเอาเข้าสู่กรุงเทพมหานครอีกด้วย
ต่อมาเมื่อพระศรีสมุทรโภค(อิ่ม ยมจินดา)เจ้าเมืองระยองคนสุดท้าย ได้ริเริ่มให้มีการตัดถนนขึ้นกลางเมือง ซึ่งอันเป็นเส้นทางคมนาคมสายแรกมาพร้อมกับขนานนามว่า ถนนยมจินดา ชัยภูมิของเมือง จึงเปลี่ยนโฉมหน้าใหม่มาตั้งอยู่บนถนน และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ถนนยมจินดาก็ได้กลายมาเป็นศูนย์กลางเมืองระยอง ที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนของชุมชนบ้านไม้ ย่านการค้าที่มีทั้งตลาดสด  ธนาคาร โรงหนัง รวมทั้งยังเป็นสถานที่ตั้งบ้านเจ้าเมืองระยอง ต้นตระกูลยมจินดา แต่ในปัจจุบันนั้นบรรยากาศคึกคักของถนนเส้นนี้นั้นแทบไม่หลงเหลืออยู่อีกแล้ว บ้านเรือนหลายหลังก็ถูกปล่อยให้ทิ้งร้างไปหรือกลายเป็นบ้านเช่าชำรุดทรุดโทรมหลังหนึ่ง ซึ่งตรงกันข้ามกับบริเวณรายล้อมที่มีการเติบโตของเมืองตลอด มีการตัดถนนเส้นใหม่อีกหลายสาย ตึกรามอาคารพาณิชย์ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดเลยทีเดียว ได้เกิดย่านการค้าแห่งใหม่ๆ หรือแม้กระทั่งมีการรุกคืบเข้ามาของธุรกิจจำพวกไฮเปอร์มาร์ตนั่นเอง
ถนนยมจินดานั้นมีตำนานเล่าขานอย่างมากมายและถือว่าเป็นต้นกำเนิดแห่งประวัติศาสตร์เมืองระยองมายาวนาน คงเปรียบเสมือนผู้เฒ่าที่เหลือเพียงแค่ลมหายใจรวยรินออกมา หากในวันนี้ไม่มีคนรุ่นใหม่ที่เห็นคุณค่าของชุมชนวัฒนธรรมแห่งนี้และขยันขะมักเขม้นทำงานในฐานะ “คณะทำงานอนุรักษ์และฟื้นฟูเมืองเก่าระยอง” ด้วยการเข้ามา “ชุบชีวิต” ถนนยมจินดาให้ฟื้นคืนชีพและคืนเสน่ห์อีกครั้งหนึ่งละก็ ปัจจุบันคงจะไม่หลงเหลือประวัติศาสตร์ให้เล่าขานต่อและคงได้กลายเป็นตำนานไปในที่สุด

แวะมาเที่ยวกันเยอะๆนะ มาสัมผัสบรรยากาศเมืองเก่าจังระยองแท้ๆกันเถอะรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

ติดตามประวัติศาสตร์เมืองไทยอีกมากที่ http://travel.sanook.com/

วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ จ.ระยอง

ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ จ.ระยอง

ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อยู่ที่ในบริเวณวัดลุ่มมหาชัยชุมพล ถ.ตากสินมหาราช ต.ท่าประดู่ จ.ระยอง จะมีต้นสะตือขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้าศาล อายุประมาณ 300 ปี เค้าเล่ากันว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงได้นำช้างมาผูกไว้ที่ใต้ต้นสะตือแห่งนี้ และเมื่อครั้งเสด็จผ่านระยองไปเพื่อรวบรวมไพร่พล จัดตั้งทัพเพื่อเตรียมกู้อิสรภาพที่จ.จันทบุรี ภายในศาลนั้นมีรูปหล่อของสมเด็จพระเจ้าตากสินประดิษฐานอยู่ในรูปท่าประทับยืน และมีงานสมโภชประจำปีอยู่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน สามารถแวะมาได้ที่ จ.ระยอง

เวลาเปิด : ทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.

ท่องเที่ยวสถานที่อื่นมาชมได้ที่  http://travel.sanook.com/